คอนโด ศุภาลัย ลอฟท์ รัชดาฯ-วงศ์สว่าง

รัชดาฯ – วงศ์สว่าง คอนโดใหม่กับทำเลศักยภาพ

ความเจริญของกรุงเทพมหานครที่เกิดขึ้นนั้น เกิดมาจากการพัฒนาในด้านต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ทำเลต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ทำให้การใช้ชีวิตของคนในปัจจุบันในแต่ละวันเป็นเรื่องง่ายกว่า สมัยก่อนเป็นอย่างมาก ความเจริญที่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องนั้น ส่งผลให้คนในปัจจุบันมีทางเลือกมากขึ้น รวมไปถึงที่อยู่อาศัยเช่นกัน การจะซื้อที่อยู่อาศัยสักที่ต้องดูปัจจัยต่างๆ ที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด โดยหลักๆแล้วต้องดูทำเลเป็นอันดับแรก บางคนก็เลือกทำเลที่เราเคยอยู่อาศัยมาก่อน บางคนก็เลือกทำเลที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตในแต่ละวัน สรุปแล้วการเลือกที่อยู่อาศัยต้องเลือกจากปัจจัยสำคัญๆที่เข้ากับตัวเองมากที่สุด สำหรับบทความนี้จะขอนำเสนอทำเล รัชดา-วงศ์สว่าง ที่เต็มไปด้วยปัจจัยสำคัญๆในการที่จะเลือกที่อยู่อาศัยให้เหมาะกับตนเอง

รัชดา-วงศ์สว่าง เป็นทำเลที่อยู่ทางกรุงเทพตอนเหนือ ที่เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย แหล่งงานต่างๆ  และเชื่อมต่อกับถนนสำคัญหลักๆภายในกรุงเทพ เริ่มจากถนนรัชดาภิเษก เป็นถนนวงแหวนรอบในของกรุงเทพมหานคร โดยถนนรัชดาภิเษกนั้นจะเป็นถนนที่วิ่งรอบกรุงเทพเป็นวงกลมระยะทางประมาณ 45 กิโลเมตร ซึ่งถนนรัชดาภิเษกจะเชื่อม และตัดกับถนนสำคัญๆ ดังต่อไปนี้ เริ่มตั้งแต่ฝั่งขาเข้าเชื่อมกับถนนวงศ์สว่าง ตัดกับถนนกรุงเทพ-นนทบุรี ถนนประชาชื่น   ถนนวิภาวดีรังสิต ถนนพหลโยธิน ถนนลาดพร้าว ถนนพระราม9 (New CBD) ถนนเพชรบุรี ถนนสุขุมวิท (CBD) ถนนพระราม3 สะพานกรุงเทพ ถนนจรัญสนิทวงศ์ สะพานพระราม7 และวนกลับมาเชื่อมกับถนนวงศ์สว่าง ล้วนแล้วเป็นถนนและโซนสำคัญในกรุงเทพทั้งนั้น ทางทีม Homezoomer ขอนำเสนอคอนโดใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นบนทำเลรัชดา-วงศ์สว่าง ภายใต้ชื่อโครงการว่า ศุภาลัย ลอฟท์ รัชดาฯ-วงศ์สว่าง (Supalai Loft Ratchada – Wong Sawang) พัฒนาที่ดินโดย บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)

สำหรับคอนโดใหม่ ศุภาลัย ลอฟท์ รัชดา-วงศ์สว่าง (Supalai Loft Ratchada – Wong Sawang) จะเป็นคอนโดสูง 17   ชั้น (ไม่รวมดาดฟ้า) จำนวน  1  อาคาร  3  ทาวเวอร์ จำนวนยูนิตทั้งหมด 1,302   ยูนิต ร้านค้า 7 shop ซึ่งโครงการอยู่ติดกับถนนรัชดาภิเษก ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักทำเลรอบๆโครงการกันก่อน ว่าทำเลตรงนี้จะมีจุดเด่นอะไรกันบ้าง

การเดินทางโดยใช้ถนนหลัก  

เริ่มตั้งแต่ถนนรัชดาภิเษกหน้าโครงการ สามารถเดินทางเข้าออกเมืองชั้นในได้ง่าย สะดวก และรวดเร็ว จากโครงการสามารถเดินทางไปยังแหล่งงานสำคัญๆอย่าง New CBD อย่างโซนพระราม9 อโศก สุขุมวิท วิภาวดีรังสิต พหลโยธิน ได้อย่างง่ายดาย นอกจากนั้นยังใกล้กับถนน และแยกต่างๆ ดังต่อไปนี้

แยกวงศ์สว่าง 800 เมตร

แยกประชานุกูล 450 เมตร

ถนนประชาชื่น  450 เมตร

ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี 800 เมตร

ถนนติวานนท์         3.3 กม.

ถนนงามวงศ์วาน 3.3 กม.

แยกติวานนท์ 3.3 กม.

แยกพงเพชร 3.3 กม.

แยกรัชโยธิน 3.7 กม.

รถไฟฟ้า

สำหรับโครงการนี้จะใกล้กับ MRT รถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีวงศ์สว่าง โครงการจะห่างจากสถานีวงศ์สว่างระยะทางประมาณ 1.1 กม. ซึ่งระยะทางพอที่จะเดินได้ แต่ทางโครงการมีบริการรถรับ-ส่งจากโครงการไปยังสถานี และจากสถานีมายังโครงการไว้ให้บริการแก่ลูกบ้าน

สำหรับ รถไฟฟ้าMRTสายสีม่วง สถานีวงศ์สว่าง (ฝั่งเข้าเมือง) จะห่างกับ รถไฟฟ้าMRTสายสีน้ำเงิน สถานีเตาปูน จุดInterchange เพียง 2 สถานีเท่านั้น โดย รถไฟฟ้าMRTสายสีน้ำเงินนี้ วิ่งเป็นวงกลมสามารถเข้าเมืองชั้นในตั้งแต่ สถานีสวนจตุจักร Interchange กับ BTS รถไฟฟ้าสายสีเขียวสถานีหมอชิต และเชื่อมต่อไปยัง รัชดาภิเษก พระราม9 (New CBD)  อโศก (CBD) สุขุมวิท (CBD) ลุมพีนี (CBD)  สีลม (CBD) สามย่าน สนามไชย ข้ามฝั่งไปยังท่าพระ วนไปบางอ้อ ข้ามฝั่งกลับมา บางโพ และกลับมาสถานีเตาปูน ที่เชื่อมไปรถไฟฟ้าสายสีม่วงฝั่งขาออกไปทางสถานีวงศ์สว่าง และเดินทางไปยังกรุงเทพตะวันตกอย่างกระทรวงสาธารณสุข ศูนย์ราชการนนทบุรี (ถนนรัตนาธิเบศร์) สะพานพระนั่งเกล้า จนไปสุดที่สถานีคลองบางไผ่ (ถนนกาญจนาภิเษก) สรุปแล้วการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเข้าออกทั้งกรุงเทพชั้นใน กับกรุงเทพชั้นนอก ถือว่าสะดวก และรวดเร็ว นอกจากนั้นแล้วยังใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้มจำนวน 10 สถานี สถานีรังสิต – สถานีบางซื่อ และ สายสีแดงอ่อน จำนวน 3 สถานี สถานีบางซ่อน – สถานีตลิ่งชัน รวมแล้วประมาณ 41 กิโลเมตร

นอกจากนั้นแล้วยังใกล้กับ “สถานีกลางบางซื่อ” ที่เริ่มเปิดให้บริการแบบเต็มรูปแบบในปี 2564 นี้ มีพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 274,192 ตารางเมตร ซึ่งเป็นศูนย์กลางระบบรางที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และใหญ่ที่สุดในอาเซียน และที่นี่ได้รวบรวมระบบขนส่งสาธารณะอาทิ รถไฟความเร็วสูง รถไฟทางไกล รถไฟชานเมือง แอร์พอร์ตเรลลิงก์ รถไฟฟ้าเชื่อมสนามบิน เป็นต้น นอกจากนี้ สถานีกลางบางซื่อ ยังเป็นจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (สถานีบางซื่อ) ที่สามารถเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองได้อย่างรวดเร็ว และสะดวกอีกด้วย รวมไปถึงการเดินทางไปสู่ภูมิภาคต่างๆ ภายในประเทศ

ทางด่วน

สำหรับโครงการ ศุภาลัย ลอฟท์ รัชดา-วงศ์สว่าง (Supalai Loft Ratchada – Wong Sawang) จะใกล้กับทางด่วนศรีรัชจุดขึ้น-ลงทางด่วน เพียงประมาณ 1 – 1.5 กม. เท่านั้น ด่านประชาชื่น(ฝั่งขาเข้า) จะสามารถเดินทางเข้าไปยังกรุงเทพฯชั้นใน อาทิเช่น สาทร สีลม พระราม4 ฯลฯ ได้อย่างสะดวก และรวดเร็ว หรือจากกรุงเทพฯชั้นในกลับมายังที่ตั้งของโครงการโดยลงด่านรัชดาภิเษกก็สะดวก และรวดเร็วเช่นกัน ซึ่งจะเหมาะกับใครที่ต้องเดินทางเข้าออกเมืองทุกวัน มีทางด่วนพิเศษที่ใกล้ทำให้ประหยัดเวลาในการเดินทางเป็นอย่างมาก

นอกจากนั้นแล้วทางโครงการยังให้ความสำคัญกับแหล่งสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อให้เข้ากับ Lifestyle ของผู้พักอาศัย ซึ่งในระยะใกล้เคียงกับโครงการจะมีแหล่งสำคัญๆดังต่อไปนี้

ห้างสรรพสินค้า และแหล่งช็อปปิ้ง

BIC C วงศ์สว่าง | The Mall งามวงศ์วาน| Central ลาดพร้าว | Major รัชโยธิน | HomePro | The Avenue รัชโยธิน | Tesco Lotus | Union Mall | Gateway บางโพ | ตลาดประชานิเวศน์ | ตลาดบองมาเซ่

สถานพยาบาล

โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น | โรงพยาบาลนนทเวช | โรงพยาบาลบางโพ

สถานศึกษา

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ | มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจองเกล้าพระนครเหนือ | มหาวิทยาธุรกิจบัณฑิต | โรงเรียนโยธินบูรณะ | โรงเรียนหอวัง

สถานที่พักผ่อน

สวนจตุจักร | สวนรถไฟ | สวนสุขภาพประชานุกูล

อาคารสำนักงาน แหล่งงานสำคัญต่างๆ แนวถนนวิภาวดี โซนพระราม9 สุขุมวิท อโศก และพหลโยธิน

SCB | การบินไทย | ปตท. | กระทรวงสาธารณสุข | Office Building ต่างๆบนถนนวิภาวดี

ทั้งหมดนี้จะเป็นแหล่งสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่อยู่ในบริเวณรอบๆ โครงการ ศุภาลัย ลอฟท์ รัชดาฯ-วงศ์สว่าง (Supalai Loft Ratchada – Wong Sawang) ถือว่าอยู่ใจกลางแหล่งสำคัญๆ อยู่เยอะพอสมควร ทำให้ทำเลที่ตั้งของตัวโครงการถือว่าอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพครบเกือบทุกด้าน ซึ่งสามารถตอบโจทย์กับผู้พักอาศัยได้เป็นอย่างมาก ปัจจัยทั้งหมดที่กล่าวมานั้นถือว่าเป็นจุดแข็งของทำเลโครงการนี้ หลังจากนี้เราไปทำความรู้จักกับโครงการ คอนโด ศุภาลัย ลอฟท์ รัชดาฯ-วงศ์สว่าง (Supalai Loft Ratchada – Wong Sawang) กันครับ

โครงการ คอนโด ศุภาลัย ลอฟท์ รัชดาฯ-วงศ์สว่าง (Supalai Loft Ratchada – Wong Sawang) สำหรับ Concept ของโครงการเกิดจากแนวคิด HIGHLAND LIVELIHOOD (การใช้ชีวิตบนที่สูง) เป็นคอนโดสูง 17 ชั้น(ไม่รวมชั้นดาดฟ้า) 1 อาคาร 3 ทาวเวอร์ เรียงจากหลังมาหน้าโครงการ จะเริ่มตั้งแต่ Tower A Tower B และTower C ซึ่งจะติดกับทางเข้าหน้าสุด นอกเหนือจากนั้น ยังเอา Facility เกือบทั้งหมดยกไปไว้บนชั้น 18 (Rooftop) ทำให้สามารถรับวิวเต็มที่กว้างขึ้นสวยงาม ในส่วนของพื้นที่สีเขียวจะมีขนาดทั้งสิ้นประมาณกว่า 3 ไร่ สำหรับห้องพักอาศัยจะเริ่มต้นตั้งแต่ชั้นที่ 4 – 17 โดยทางโครงการกล่าวไว้ว่า ชั้น 1 ของโครงการ เปรียบเสมือนระดับพื้นดิน หรือชั้นหิน และไล่ระดับสูงขึ้นเป็นชั้นเหนือพื้นดิน จนถึงชั้นบนสุดของอาคารเปรียบเสมือนท้องฟ้า ก้อนเมฆ” สำหรับ Theme ทางโครงการออกแบบมาให้โทน Mono Tone บวกกับ Green Wall ทำให้สีออกมาดูเรียบง่าย สงบ แต่ยังแฝงเสน่ห์ความหรูหราไว้เหมือนเดิม และเสริมด้วย Green Wall ทำให้เข้าถึงความเป็นธรรมชาติได้มากขึ้น

ทางเข้าโครงการจะหันไปทางตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งบริเวณด้านหน้าจะเป็นพื้นที่สวนสีเขียวขนาดใหญ่สร้างความร่มรื่นในกับโครงการเป็นอย่างมาก ในส่วนอาคารด้านหน้าสุดทางเข้าโครงการนี้จะเป็น Tower C และไล่เข้าไปเป็น Tower B และ Tower A ซึ่งจะอยู่ด้านในสุด นอกจากนั้นภายในโครงการจะมี 7-11 ในโครงการ เพิ่มความสะดวกสบาย และติดตั้ง Ev Charger ตอบโจทย์ยุคสมัยใหม่

พื้นที่ของ Lobby ทางโครงการออกแบบให้เข้ากับ new normal โดยจะมีจุด Delivery Pick Up ทุกทาวเวอร์ โดยจะแยกเป็นสัดส่วนต่างๆอย่าง ห้องเก็บพัสดุ, ประตูอัตโนมัติ ในส่วนจำนวนลิฟท์จะมี 4 ตัว/ทาวเวอร์ เทียบกับ 1 ตึกมี 434 ยูนิต ถือว่ากำลังดี

สำหรับ Facility สามารถใช้ได้ทั้ง 3 ทาวเวอร์ สามารถขึ้นไปใช้จากอาคารตัวเอง โดยไม่ต้องลงไปข้างล่าง เพราะทางโครงการออกแบบอาคารเชื่อมต่อกันทั้ง 3 ทาวเวอร์

Tower A Rooftop พื้นที่ส่วนกลางจะประกอบไปด้วย Infinity-Horizon Pool ความยาว 30 เมตร, Sky Playground และ Relaxing Pavilion

สำหรับพื้นที่ส่วนกลางของ Tower B จะประกอบไปด้วย Backyard Garden, Sky Fitness แบ่งเป็น Cardio, Strength  และ Yoga/Aerobic และ Cloud-Living Space

Tower C ในส่วนชั้น Roof top จะมีพื้นที่ส่วนกลางประกอบไปด้วย Skyline Jogging Track เชื่อมต่อ 3 ทาวเวอร์   ยาว 340 เมตร, Ozone Garden, Cloud- Working Space, Step Working Space และ Cloud Meeting

ห้องตัวอย่างแรกจะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom Type 1A2

ประตูที่ได้จะเป็น Digital Door Lock พอเข้ามาภายในห้องจะเจอ Living Area เป็นอันดับแรก ซึ่งพื้นที่ในส่วนนี้จะเป็นพื้นที่ตั้งชุดโซฟา และชั้นวางทีวี ถ้าดูจากภาพนี้แล้วจะเห็นระยะห่างการนั่งดูทีวีจากโซฟา ซึ่งระยะในการดูอยู่ในระยะกำลังพอดีไม่ใกล้ และไม่ไกลจนเกินไป

ถัดเข้าด้านในห้องนอนจะกั้นส่วนด้วยประตูกระจกใสแบบบานเลื่อน ข้อดีในการใช้ประตูกระจกใส จะทำให้ห้องดูกว้างสบายตา ไม่อึดอัดในเวลาอยู่อาศัยจริง

ภายในห้องนอนจะมีขนาดกว้าง สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้อย่างสบายๆ และยังเหลือพื้นที่ให้เดินอยู่พอสมควร

สังเกตปลายเตียง ห้องแบบนี้จะออกแบบมาให้มี Walk in Closet อยู่ภายในห้องนอน

ภายใน Walk in Closet จะเป็นพื้นที่ของตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้ง

ตำแหน่งของครัวจะแยกออกมาอยู่ด้านข้างของตัวห้อง จะเป็นครัวปิดนะครับ โดยเค้าจะกั้นส่วนด้วยประตูกระจกใส เช่นกัน สำหรับชุดครัวที่เห็นนี้จะติดมากับห้องเลยนะครับ ประกอบไปด้วยตู้บนที่ออกแบบมาให้มีตู้เก็บของ ช่องวาง Microwave ในส่วนตู้ล่างจะติดตั้ง Hood Hob ของ HAFELE มาให้เรียบร้อยเลยครับ

สำหรับห้องน้ำก็จะอยู่ด้านข้างของตัวห้องเช่นกัน ซึ่งห้องน้ำจะเชื่อมต่อกับส่วนครัวตามภาพนี้เลยครับ

ในส่วนของห้องน้ำนั้นจะเป็นห้องน้ำแบบสำเร็จรูป ใช้สุขภัณฑ์ Cotto กับอุปกรณ์จะเลือกใช้ของ HAFELE และติดตั้ง Shower Box มาให้ทุกห้อง

ก๊อกน้ำสีดำด้านจะเป็นของ HAFELE

สำหรับโครงการนี้จะให้เป็น Rain Shower ของ HAFELE ทั้งหมด

ห้องตัวอย่างที่ 2 จะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom Type 1C2  ขนาดจะอยู่ที่ 35 ตร.ม. สำหรับห้องนี้จะเป็นห้องแบบใหม่ Layout ของห้องห้องถือว่าสวย ลงตัวกับการอยู่จริงๆ โดยเค้าจะแยกส่วนครัว และห้องน้ำออกจากพื้นที่พักผ่อน ทำให้ได้เป็นครัวปิด ในส่วนพื้นที่นั่งเล่นก็ได้พื้นที่มากขึ้น แต่จุดเด่นของห้องนี้คือจะได้พื้นที่ Favorite Conner สามารถปรับเปลี่ยนเป็นมุมทำงาน หรืออย่างอื่นที่ให้เหมาะกับตัวเองมากที่สุด ซึ่งตำแหน่งนี้จะอยู่กึ่งกลางระหว่างพื้นที่นั่งเล่น กับห้องนอน

บริเวณด้านหน้าสุดของห้องจะมีพื้นที่สำหรับ Built in เป็นตู้เก็บของ ตู้เก็บรองเท้า ซึ่งจะมีพื้นที่ค่อนข้างกว้างอยู่พอสมควร

ประตูทางเข้าที่เห็นจะเป็นในส่วนห้องครัว และห้องน้ำ ที่กั้นเป็นสัดส่วน โดยจะกั้นด้วยประตูกระจกใสแบบบานเลื่อน

ถัดเข้ามาภายในห้อง ห้องน้ำจะอยู่ทางซ้ายมือ ส่วนครัวนั้นจะอยู่ทางขวามือ

ภายในห้องน้ำสุขภัณฑ์ และอุปกรณ์ จะเหมือนกับห้องที่ผ่านมาทุกอย่าง

ชุดครัวที่ได้จะเป็นตามนี้เลยนะครับ

ออกมาจากส่วนครัว จะเห็นพื้นที่ Living Area ที่สามารถวางโต๊ะรับประทานขนาด 2-3 ท่าน และชุดโซฟา

พื้นที่ Favorite Conner ที่เพิ่มขึ้นมา จะอยู่ถัดเข้ามาจากตำแหน่ง Living Area โดยจะกั้นส่วนด้วยประตูกระจกใสแบบบานเลื่อน

ถัดเข้ามาจะเป็นห้องนอน

ภายในห้องนอนจะสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้อย่างพอดี โดยตำแหน่งของตู้เสื้อผ้าจะอยู่ด้านข้างเชื่อมต่อโต๊ะเครื่องแป้ง

มุมตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้ง

สรุปแล้วคอนโดใหม่ ศุภาลัย ลอฟท์ รัชดาฯ-วงศ์สว่าง (Supalai Loft Ratchada – Wong Sawang) จะเป็นคอนโดสูง 17   ชั้น (ไม่รวมดาดฟ้า) จำนวน 1 อาคาร 3 ทาวเวอร์ จำนวนยูนิตทั้งหมด 1,302   ยูนิต ร้านค้า 7 shop นอกจากนั้นภายในโครงการจะมี 7-11 เพิ่มความสะดวกสบาย และติดตั้ง EV Charger ตอบโจทย์ยุคสมัยใหม่ สำหรับทำเลจะตั้งอยู่ติดกับถนนใหญ่รัชดาภิเษก ที่เชื่อมต่อมาจากถนนวงศ์สว่าง ในเรื่องของการเดินทางถือว่าสะดวกรวดเร็ว ใกล้กับแหล่งสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิเช่นอาคารสำนักงานต่างๆที่อยู่แนวถนนวิภาวดี แนวถนนรัชดาภิเษกโซนพระราม9 อโศก สุขุมวิท และอื่นๆ สำหรับใครที่ต้องใช้ทางด่วนเข้าออกเมืองชั้นในก็ถือว่าสะดวกเพราะอยู่ใกล้กับทางขึ้นลงเลย ในส่วนการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าก็ใกล้กับ รถไฟฟ้าMRT สายสีม่วง สถานีวงศ์สว่าง ซึ่งจะอยู่ห่างจากจุด Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีเตาปูน เพียง 2 สถานีเท่านั้น ในส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆที่อยู่รอบๆโครงการในรัศมีใกล้เคียงก็มีอยู่จำนวนมาก ในส่วนภายในโครงการก็จัด Facility มาอย่างเต็ม ตั้งแต่ทางเข้าหน้าโครงการ และด้านหลังโครงการจะมีพื้นที่สีเขียวขนาดกว่า 3 ไร่ ส่วนภายใน Lobby จะแยกส่วนทั้ง 3 ทาวเวอร์ ออกแบบให้เข้ากับ new normal โดยจะมีจุด Delivery Pick Up ทุกทาวเวอร์ โดยจะแยกเป็นสัดส่วนต่างๆอย่าง ห้องเก็บพัสดุ, ประตูอัตโนมัติ ในส่วนจำนวนลิฟท์จะมี 4 ตัว/ทาวเวอร์ เทียบกับ 1 ตึกมี 434 ยูนิต ถือว่ากำลังดี สำหรับส่วนกลางอื่นๆทางโครงการยกไปไว้บนชั้น Rooftop ทั้ง 3 ทาวเวอร์ อาทิเช่น สระว่ายน้ำมีความยาว 30 เมตร Jogging Track เชื่อม 3 ทาวน์เวอร์ ยาว 340 เมตร มี Backyard Garden สวนผักทานง่าย และอื่นๆอีกมากมาย เป็นต้น ในส่วนของห้องพักอาศัยทางโครงการออกแบบมาให้มีแบบห้องหลากหลายตามความต้องการของผู้พักอาศัยใด้เลือกแบบที่เข้ากับตัวเองมากที่สุด ไฮไลท์สำคัญสำหรับแบบห้องคงจะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนแบบที่มี Favorite Conner ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่ใช้งานให้เข้ากับเรามากที่สุด ห้องที่กว้าง และสูงเป็นพิเศษ ห้องที่ได้เป็นห้องแบบ Fully Fitted ประกอบไปด้วยชุดครัวที่มาพร้อมกับ Hood Hob ประตูเป็น Digital Door Lock และภายในห้องน้ำให้เป็น Rain Shower สรุปที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เอามาเปรียบเทียบกับราคาที่เริ่มต้นประมาณ 52,000/ตร.ม. และราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 65,000 /ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.7 ล้านบาท ถือว่าคุ้มเป็นอย่างมากครับ

เตรียมตัวเปิด Pre-Sale 22-23 ม.ค.65 ณ Sales Gallery โครงการ

สำหรับ Promotion ช่วง Pre-Sale แถมฟรี*

  • เครื่องปรับอากาศทุกห้อง
  • วอลเปเปอร์
  • ชุดครัว Built-in พร้อม Hob+Hood
  • เครื่องทำน้ำอุ่น
  • ฉากกั้นอาบน้ำแบบกระจกนิรภัย
  • Digital Door Lock

พิเศษ! ส่วนลด 180,000 – 260,000 บาท (*เฉพาะยูนิตที่บริษัทกำหนด)

*เงื่อนไขขึ้นอยู่กับบริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ติดต่อสำนักงานขาย 9.00 – 18.00 น.

โทร. 1720